สาเหตุของการเกิดโพรงใต้บ้าน
กรุงเทพฯ ปริมณฑล กับอัตราการทรุดตัวของดิน
ประเทศไทย โดยเฉพาะในพื้นที่ราบลุ่มอย่างกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ประสบปัญหาดินทรุดตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉลี่ยแล้ว ดินในกรุงเทพฯ และปริมณฑลมีอัตราการทรุดตัวประมาณปีละ 1-2 เซนติเมตร สาเหตุหลักมาจากการเป็นพื้นที่ดินเหนียวอ่อน การสูบน้ำบาดาลขึ้นมาใช้ในอดีต และการก่อสร้างอาคารที่มีน้ำหนักมาก ซึ่งล้วนส่งผลให้ดินใต้พื้นผิวเกิดการยุบตัวลง
ทำไมดินทรุดตัวรอบบ้านถึงเป็นเรื่องปกติ?
การที่ดินรอบบ้านทรุดตัวลงเล็กน้อยทุกปีจึงเป็นเรื่องที่พบเห็นได้ทั่วไป สาเหตุที่ทำให้เกิดการทรุดตัวรอบบ้านโดยเฉพาะ นอกเหนือจากปัจจัยระดับภูมิภาคแล้ว ยังมีปัจจัยเฉพาะที่ เช่น:
- การบดอัดดินไม่แน่นพอ: ในระหว่างการก่อสร้าง หากมีการบดอัดดินบริเวณรอบบ้านไม่แน่นพอ ดินก็จะค่อยๆ ทรุดตัวลงเมื่อเวลาผ่านไป หรือเมื่อได้รับน้ำฝน
- การเปลี่ยนแปลงความชื้น: ดินเหนียวมีการหดตัวและขยายตัวตามปริมาณความชื้น เมื่อดินแห้งจะหดตัว และเมื่อได้รับน้ำจะขยายตัว การเปลี่ยนแปลงนี้ซ้ำๆ กันอาจทำให้เกิดการทรุดตัว
- น้ำท่วมขังหรือท่อรั่วซึม: น้ำที่ขังอยู่เป็นเวลานาน หรือการรั่วซึมของท่อใต้ดิน สามารถชะล้างเม็ดดินออกไป ทำให้เกิดโพรงและดินทรุดตัว
- น้ำหนักกดทับ: แม้จะไม่มีสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ แต่การวางของหนัก หรือการสัญจรไปมาบนดินเปล่าเป็นประจำ ก็อาจทำให้ดินทรุดตัวได้
ความ “ปกติ” ที่มาพร้อมอันตราย
แม้การทรุดตัวของดินรอบบ้านจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นประจำ แต่อย่าปล่อยทิ้งไว้โดยไม่สนใจ เพราะการทรุดตัวที่ว่านี้สามารถนำไปสู่อันตรายได้หลายอย่าง:
- เกิดโพรงและช่องว่าง: เมื่อดินทรุดตัว จะเกิดช่องว่างหรือโพรงใต้พื้นอาคาร หรือบริเวณรั้ว กำแพง สิ่งเหล่านี้คือ ประตูต้อนรับสำหรับสัตว์ร้ายและสัตว์พาหะต่างๆ
- แหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ร้าย:
- หนู: โพรงดินเป็นที่หลบภัยชั้นดีสำหรับหนู ซึ่งสามารถขยายโพรงให้ใหญ่ขึ้น และเป็นพาหะนำโรคต่างๆ มาสู่คนในบ้านได้ เช่น โรคฉี่หนู โรคเลปโตสไปโรซิส
- งู: โพรงดินที่อับชื้นและมืดมิด มักจะเป็นที่ซ่อนตัวของงู โดยเฉพาะงูมีพิษที่มักจะเข้ามาหลบภัยหรือหาอาหาร (เช่น หนู) ใกล้บ้าน
- ตะขาบ/แมงป่อง: สัตว์มีพิษเหล่านี้ชอบอาศัยอยู่ในที่ชื้นและอับทึบ โพรงดินรอบบ้านจึงเป็นที่อยู่ชั้นดี ทำให้มีโอกาสเลื้อยเข้ามาในบ้านและเป็นอันตรายต่อคนในบ้าน โดยเฉพาะเด็กเล็ก
- แมลงสาบ/ปลวก: แม้ไม่ใช่สัตว์ร้ายโดยตรง แต่การมีช่องว่างและโพรงดินสามารถเป็นเส้นทางให้แมลงเหล่านี้เข้ามาแพร่พันธุ์ในบ้านได้
- ผลกระทบต่อโครงสร้างในระยะยาว (หากไม่ได้รับการแก้ไข): แม้ดินทรุดตัวรอบบ้านจะไม่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างหลักโดยตรงในทันที แต่หากปล่อยให้เกิดโพรงขนาดใหญ่หรือต่อเนื่องเป็นเวลานาน อาจส่งผลให้น้ำซึมเข้าใต้ฐานรากได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่ปัญหาความชื้นและอาจมีผลต่อความแข็งแรงของฐานรากในที่สุด
การจัดการกับปัญหาดินทรุดตัวรอบบ้าน
เมื่อพบว่าดินรอบบ้านเริ่มทรุดตัว ควรดำเนินการดังนี้:
- อุดช่องว่างและโพรง: หมั่นสังเกตและอุดช่องว่างหรือโพรงที่เกิดขึ้นด้วย PU Foam หรือวัสดุที่เหมาะสม เพื่อปิดทางเข้าของสัตว์ร้าย
- ปรับระดับดิน: หากการทรุดตัวมีนัยสำคัญ ควรพิจารณาเติมดินและบดอัดให้แน่น เพื่อรักษาระดับพื้นดินให้สม่ำเสมอ
- ตรวจสอบระบบระบายน้ำ: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าระบบระบายน้ำรอบบ้านทำงานได้ดี ไม่มีน้ำขังที่อาจทำให้ดินอ่อนตัวและทรุดตัวเพิ่มขึ้น
- ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: หากการทรุดตัวรุนแรงหรือมีขนาดใหญ่ผิดปกติ หรือมีปัญหาท่อประปารั่วซึมร่วมด้วย ควรปรึกษาวิศวกรหรือช่างผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประเมินสถานการณ์และหาแนวทางแก้ไขที่ยั่งยืน
การทรุดตัวของดินรอบบ้านเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นได้ แต่การเพิกเฉยไม่ใช่ทางเลือกที่ดี การเฝ้าระวังและแก้ไขปัญหาอย่างทันท่วงที จะช่วยให้บ้านของคุณปลอดภัยจากทั้งปัญหาโครงสร้างและภัยจากสัตว์ร้ายที่อาจเข้ามาอาศัยในช่องว่างเหล่านั้นได้
Leave A Comment